เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างกล้อง Day/Night กับกล้อง IR

กล่าวถึงกล้อง Day/Night

เมื่อกล่าวถึงกล้องวงจรปิดแบบที่สามารถใช้ในการบันทึกภาพในช่วงเวลากลางคืนได้ด้วยนั้น คงต้องนึกถึงกล้อง Day/Night นั่นเอง ซึ่งในการบันทึกภาพในช่วงเวลากลางคืนนั้น จะมีความสามารถในการจับภาพในระดับแสงน้อย แต่ไม่ถึงกับมืดสนิท คือจะมีค่าแสงที่มากกว่า 0 lux จึงจะสามารถทำการจับภาพได้ และเมื่อการบันทึกภาพนั้น อยุ่ในสภาพแวดล้อมที่มีค่าแสงน้อยมากๆ โหมดภาพก็จะเปลี่ยนเป็นการบันทึกภาพแบบขาวดำ และสำหรับกล้องประเภทนี้จะสามารถจับภาพได้โดยไม่จำกัดระยะทาง เพียงแต่ไม่สามารถที่จะทำการเก็บภาพได้ในที่มืดสนิทได้เท่านั้นเอง

กล้องแบบ Day/Night นั้นจะแบ่งออกเป็นอีกสองแบบด้วยกัน คือแบบ T-D/N ที่เรียกกกันว่า True Day/Night และก็อีกแบบหนึ่งคือ E-D/N ที่เรียกกันว่า Simple Day/Night

ซึ่งภายในตัวกล้องนั้น จะมีแผ่นฟิล์มใสติดอยู่ด้านหน้า Chip CCD ซึ่งก็จะเรียกกันว่า IR cut filter ซึ่งจะมีหน้าที่ในการกรองแสงให้กับ CCD ซึ่งก็จะเป็นผลทำให้ได้ภาพที่คมชัดและมีสีสันที่สมจริง

สำหรับแบบ E-D/N ตัว IR cut filter จะไม่สามารถเปิดออกได้ ผลก็คือในเวลากลางคืน IR cut filter นี้ จะไม่ยอมให้แสงจากภายนอกผ่านเข้ามาที่ CCD ได้ ทำให้ภาพที่ได้ออกมานั้นค่อนข้างมืด ซึ่งถ้าอยู่ในพื้นที่ๆมีค่า lux น้อยมากๆ ก็จะจับภาพได้ไม่ดีเท่าที่ควร

แบบ T-D/N ตัว IR cut filter จะสามารถเปิด/ปิดได้ซึ่งจะช่วยในการกรองแสงให้กับ CCD ข้อดีที่ได้นั้นก็คือถ้าอยู่ในสภาวะที่มีแสงจ้า ตัว IR cut filter ก็จะกรองแสงให้มีปริมาณที่น้อยลงเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและมีสีสันที่ดูแล้วสมจริง และเมื่ออยู่ในเวลากลางคืนตัว CCD ต้องการแสงที่มากกว่า IR cut filter ก็จะเปิดออกจากหน้า CCD เพื่อรับแสงที่ผ่านเข้ามา ทำให้สามารถที่จะจับภาพได้นั่นเอง

กล้อง Infrared (IR Camera)

กล้องวงจรปิดประเภทนี้จะเป็นกล้องที่มีความพิเศษโดยจะใช้แสงจากหลอดInfraredส่องไปกระทบที่ตัววัตถุุ เพื่อที่จะใช้ในการจับภาพที่วัตถุนั้นได้ ซึ่งตัวInfraredจะทำงานเมื่ออยู่ในสภาวะแสงในบริเวณนั้นน้อยลงไปอยู่ที่ระดับหนึ่ง โดยที่จะมีเซนเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของตัวกล้องคอยทำหน้าที่วัดระดับแสง และคอยส่งสัญญาณไปที่หลอดInfraredให้ทำงาน และทันทีที่หลอดInfraredทำงานภาพก็จะกลายเป็นขาวดำ ระยะการจับภาพของกล้อง IR นั้นโดยทั่วไปจะอยู่ทีี่ 10 ม.ม., 20 ม.ม., 30 ม.ม., 60 ม.ม. สังเกตได้ง่ายๆ ว่าหลอดLEDทำงานหรือไม่ ค้ือเมื่ออยู่ในที่มืด หลอดLED จะเปล่งแสงเป็นสีแดง ซึ่งก็จะมีข้อพิเศษอยู่ตรงที่ สามารถจับภาพในที่มืดได้ถึง 0 LUX แต่มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่จับภาพได้ไกลสุดตามระยะทางที่กำหนดไว้เท่านั้น