ความสว่าง

ความสว่างนั้นจะเป็นตัววัดค่าของแสงที่มาตกกระทบลงบนผิวของวัตถุต่าง ๆ แสงนั้นเป็นพลังงานรูปหนึ่งที่ให้ความสว่างทำให้เราสามารถมองเห็นผิวของวัตถุที่แสงไปตกกระทบได้ และค่าความสว่างนี่เองที่เป็นตัวบอกว่า มีแสงมาตกกระทบที่ผิวของวัตถุมากน้อยเพียงไร แสงที่มาตกกระทบมากจะมีค่าความสว่างมาก แสงที่มาตกกระทบน้อยจะมีความสว่างน้อยลงไป

หน่วยที่ใช้ในการวัดค่าความสว่างของแสง

เพื่อให้เข้าใจง่าย เริ่มรู้จักที่แรงเทียนกันก่อน (Candle Power) คือหน่วยที่ใช้ในการวัดค่าความเข้มของการส่องสว่าง (Luminous intensity) โดยในการวัดนั้นจะให้แหล่งกำเนิดของแสง อยู่ที่จุดศูนย์กลางของวงกลม โดยให้มีรัศมีของวงกลมนั้นมีขนาดเท่ากับ 1 ฟุต พื้นที่ขนาด 1 ตารางฟุตของวงกลมนั้น จะวัดค่าความสว่างได้เท่ากับ 1 ฟุต-แคนเดิล (ตัวย่อ fc) หรือมีค่าเท่ากับ 1 ลูเมนต่อตารางฟุต

ลูเมน (Lumen) ใครหลายคนจะรู้จักหน่วยนี้ เพราะมักจะเห็นอยู่ที่ข้างกล่องไฟฉาย (ตัวย่อที่ใช้ lm)

เป็นหน่วยที่ใช้ในการวัดกำลังของความสว่าง (Luminous power) คิดที่วงกลมของแสงที่มีรัศมี 1 ฟุต ที่วงกลมนี้จะมีแสงมาตกกระทบ 1 เส้น หรือเรียกว่า 1 ลูเมน นั่นก็คือพื้นที่ผิวโดยรอบขนาด 12.57 ตร.ฟุต จะมีเส้นของแสงมาตกกระทบเท่ากับ 12.57 Lumens ซึ่งก็จะได้ว่า

1 cd = 12.57 lumens

ลักซ์ (Lux) หน่วยยอดนิยมที่ใช้กับกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพในที่มืดได้ก็จะใช้หน่วยนี้ในการวัด (ตัวย่อ lx)

คือหน่วยที่ใช้ในการวัดค่าความสว่าง (illuminance) เราทราบมาก่อนแล้วว่า 1 fc = 1 ลูเมนต่อตารางฟุต แต่ถ้าเราเปลี่ยนมาวัดที่วงกลมขนาดพื้นที่เป็นตารางเมตร ก็จะได้ว่า 1 lux = 1 ลูเมนต่อตารางเมตร หรือเท่ากับ 1 lux = 1 ลูเมนต่อ 10.76 ตารางฟุต นั่นเอง

1 lux = 1 lumen/metre

1 lux = 1 lumen/10.76 ft²

ดังนั้นเมื่อเราวัดค่าความสว่างของแสงเราก็จะใช้ค่าลักซ์นี้ในการวัดความสว่างของแสงที่มาตกกระทบกับผิวของวัตถุนั้น ๆ